การเลือกระบบบำบัดน้ำเสียขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ลักษณะของน้ำเสีย ระดับการบำบัดน้ำเสียที่ต้องการ สภาพทั่วไปของท้องถิ่น ค่าลงทุนก่อสร้างและค่าดำเนินการดูแลและบำรุงรักษา และขนาดของที่ดินที่ใช้ในการ ก่อสร้าง เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ระบบบำบัดน้ำเสียที่เลือกมีความเหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยการบำบัดน้ำเสียสามารถแบ่งได้ตามกลไกที่ใช้ในการกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำเสีย ได้ดังนี้
1. การบำบัดทางกายภาพ (Physical Treatment) : เป็นวิธีการแยกเอาสิ่งเจือปนออกจากน้ำเสีย
2. การบำบัดทางเคมี (Chemical Treatment) : เป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียโดยใช้กระบวนการทางเคมี เพื่อทำปฏิกิริยากับสิ่งเจือปนในน้ำเสีย วิธีการนี้จะใช้สำหรับน้ำเสียที่มีส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ คือ ค่าพีเอชสูงหรือต่ำเกินไป มีสารพิษ มีโลหะหนัก มีของแข็งแขวนลอยที่
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียในฟาร์มสุกร ด้วยจุลินทรีย์ชีวภาพ Bio100wwt พื่อรองรับปริมาณที่เพิ่มขึ้นช่วงหน้าฝน [gallery link="none" size="medium" ids="449,450,452,453,454,455"] Other Use Cases
ประสิทธิภาพที่สูงของ bio100wwt ลดค่า BOD & COD ของน้ำที่เข้าระบบ จนตำ่กว่าเกณฑ์มาตราฐานของกรมควบคุมมลพิษ กระทรางทรัพยากร ๆ
โรงงานฟอกย้อมขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเสียกว่า 2000 คิวต่อวัน สามารถลดงบประมาณการบำบัดน้ำลงมากกว่า 80%
น้ำเสียจากแหล่งชุมชน หมายถึง น้ําเสียที่เกิดจากกิจกรรมประจําวันและกิจกรรมที่เป็นอาชีพ ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ได้แก่ น้ําเสียที่เกิดจากการประกอบ อาหารและชําระล้างสิ่งสกปรกทั้งหลายภายในครัวเรือน และ
น้ำเสีย หมายถึง น้ำที่มีสารใด ๆ หรือสิ่งปฏิกูลที่ไม่พึงปรารถนาปนอยู่ การปนเปื้อนของสิ่งสกปรกเหล่านี้ จะทำให้
น้ำ (น้ำดี) เป็นสิ่งที่โปร่งใส ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น และไม่มีสี ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบหลักของลำธาร, แม่น้ำ, และมหาสมุทรในโลก เป็นต้น และยังเป็นของเหลวในสิ่งมีชีวิต มีสูตรเคมีคือ H2O